Porn ไล สด
แหล่งข้อมูล: ภาษาที่กวีใช้เพื่อสร้างสรรค์ความงามให้แก่บทร้อยแก้วหรือบทร้อยกรองนั้น มีหลักสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกัน 3 ข้อ คือ 1. การเลือกสรรคำให้สื่อความคิด ความเข้าใจ ความรู้สึก อารมณ์ ได้อย่างงดงามตรงตามที่ผู้พูดหรือผู้เขียนมีอยู่จริง เรียกว่า การสรรคำ 2. การจัดวางคำที่เลือกสรรแล้วนั้นให้ต่อเนื่องเป็นลำดับ ร้อยเรียงกันอย่างไพเราะ เหมาะสม ถูกต้องตามโครงสร้างของภาษา และได้จังหวะ ในกรณีที่เป็นบทร้อยกรองจะต้องถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ด้วย เรียกว่า การเรียบเรียงคำ 3. การพลิกแพลงภาษาที่ใช้พูดและเขียนให้แปลกออกไปจากที่เป็นอยู่ปกติ ซึ่งจะก่อให้เกิดรสกระทบใจ ความรู้สึกและอารมณ์ตรงกับภาษาที่ใช้อย่างตรงไปตรงมา เรียกว่า การใช้โวหาร การใช้กวีโวหาร หรือ โวหารภาพพจน์ คือ การพลิกแพลงภาษาที่ใช้พูดและเขียนให้แปลกออกไปจากที่ใช้อยู่เป็นปกติ ก่อให้เกิดจินตภาพ มีรสกระทบใจ ความรู้สึกและอารมณ์ ต่างกับการใช้ภาษาอย่างตรงไปตรงมา การใช้โวหารภาพพจน์มีอยู่หลายลักษณะ ดังนี้ 1. อุปมา อุปมา หมายถึง การเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง การเปรียบเทียบด้วยวิธีนี้จะมีคำแสดงความหมายว่า "เหมือน"ปรากฏอยู่ด้วย เช่น เหมือน เสมือน ดุจ ประดุจ ดัง เพียง คล้าย ปูน ราว ฯลฯ ตัวอย่าง ผิวขาว ดัง สำลี หน้า เหมือน พระจันทร์วันเพ็ญ เสร็จเสวยศวรรเยศอ้าง ไอศูรย์ สรวงฤา เย็นพระยศ ปูน เดือน เด่นฟ้า เกษมสุขส่องสมบูรณ์ บานทวีป สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้า แหล่งล้วนสรรเสริญ (ลิลิตตะเลงพ่าย) ไม้เรียกผกากุพ ชกะสีอรุณแสง ปาน แก้มแฉล้มแดง ดรุณี ณ ยามอาย (มัทนะพาธา) 2.
๒. เรียงข้อความที่มีความสำคัญเท่า ๆ กัน คู่เคียงกันไป ใช้สันธานแสดงความคล้อยตามกันหรือความเลือกเอาอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นคำเชื่อม เช่น ๒. ๑. ธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ๒. ๒. ความสัตย์หนึ่ง ความกตัญญูรู้คุณท่านหนึ่ง กับเมตตาหนึ่ง ให้หลานถือไว้ประจำใจแล้วไม่มีตกยาก ( เมื่อหัวถึงหมอน: เปลื้อง ณ นคร) ๒. ๓. พระราชา ๑ หญิง ๑ ไม้เลื้อย ๑ ย่อมรักผู้แลสิ่งที่อยู่ใกล้ ( นิทานเวตาล: น. ม. ส. ) 7.
การเรียบเรียงถ้อยคำแบบร้อยแก้ว 1. 1 การเรียงคำหลักและคำขยาย ตามระเบียบของภาษาไทยจะเรียงคำขยายไว้หลังคำหลัก เช่น หมูอ้วนนอนหลับ โรงเรียนเทพศิรินทร์ เดินช้ามาก แต่มีคำบางคำที่เรียงคำขยายไว้หน้าคำหลัก เช่น เลิศรส สูงวัย มากเรื่อง 1. 2 การเรียงลำดับคำสับที่กัน ทำให้ความหมายเปลี่ยนไป เช่น เธอมาหาใคร ใครมาหาเธอ มาหาใครเธอ เธอหาใครมา ใครหาเธอมา 1. 3 การเขียนเว้นวรรคตอนถูกต้อง จะช่วยให้สื่อความหมายชัดเจน เช่น คุณแม่พาฉันไปดูละคร / ในเรื่องรามเกียรติ์ ที่ถูกต้องต้องแก้เป็น คุณแม่พาฉันไปดูละครใน / เรื่องรามเกียรติ์ 1. 4 การเรียงคำให้ได้ดุลของเสียงและความหมาย จะทำให้เกิดความงามในภาษา เช่น หวาน เป็นลมขมเป็นยา เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ กอดมือกอดตีน กินบ้าน กินเมือง ลมเพลมพัด และคำคู่บางคำ เช่น เท่าไร – เท่านั้น ตราบใด – ตราบนั้น เมื่อไร – เมื่อนั้น 2. การเรียบเรียงถ้อยคำแบบร้อยกรอง ลักษณะเด่นที่ทำให้เกิดความงามในภาษากวีมีดังนี้ 2. 1 ใช้ถ้อยคำที่ทำให้เกิดความรู้สึกและนึกเห็นภาพได้ตามจินตนาการของกวี เช่น ตอนที่ หม่อมราโชทัยบรรยายลักษณะการวิ่งของม้า 2. 2 ใช้ถ้อยคำที่มีเสียงและจังหวะดุจดนตรีทำให้เกิดความไพเราะ เช่น การเล่นเสียงวรรณยุกต์ การใช้อัพภาส การเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น ฉะฉิว ระริก ยะยับ (คำอัพภาส) 2.
3 เสนอสารที่ให้ความคิดนึกอันลึกซึ้ง เกี่ยวกับธรรมชาติ ชีวิต สังคมและคุณธรรม เช่น "เจ้าของตาลรักหวานขึ้นปีนต้น ระหว่างตนตีนมือระมัดมั่น เหมือนคบคนคำหวานรำคาญคัน ถ้าพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล" "ราตรีก็หม่นมี ขณะดีและร้ายปน ไปผิดละคน ๆ คุณโทษประโยชน์ถม" 2. 4 ใช้ถ้อยคำบรรยายหรือพรรณนาที่ทำให้เกิดความสะเทือนอารมณ์ เช่น "สมเพชชลเนตรนองเนตรย้อย หวังจะลอยเหมือนเมฆเมืองฟ้า ใยเล่าไหลหลั่งดั่งธารา อาบหน้าให้หนาวปวดร้าวใจ" "ถิ่นกุลาค้าเร่ระเหระหน เคยกวนเวิ้งทุ่งถึงครวญคร่ำ ด้วยแล้วร้าวหนาวร้อนอ่อนระกำ กุลาดำกรำกร้านสุดทานทุกข์" ========================================================== หน้าที่ 6 ศิลปะการประพันธ์ การใช้สำนวนโวหารและกวีโวหาร แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. กล่าวอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดจินตนาการตามประสบการณ์ของกวี และกวีต้องสรรคำที่ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมด้วย เช่น "พระอาทิตย์มืดมิดเข้าเมฆมัว ฟ้าสลัวแดดดับพยับไพร" 2. การกล่าวโดยใช้โวหารภาพพจน์ มีหลายวิธีดังนี้ 2. 1 การเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมย ทำได้ 2 ลักษณะ คือ 2. 1. 1 อุปมา คือ การเปรียบสิ่งหนึ่งว่าเหมือนอีกสิ่งหนึ่ง จะใช้คำที่มีความ หมายว่า "เหมือน" เช่น ดุจ ดั่ง ราวกับ ดัง เปรียบเหมือน เพียง เพี้ยง พ่าง ปูน เยี่ยง เฉก เป็นต้น "ปัญญาประดุจดัง อาวุธ" "เย็นพระยศปูนเดือน เด่นฟ้า" 2.
5-2 ม. มีขนทั่วไป ใบเดี่ยว เรียงสลับรูปไข่หรือค่อนข้างกลม กว้าง 10-30 ซม. ปลายหยักแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ เส้นใบออกจากโคนใบ 3-7 เส้น ดอกใหญ่ ออกเดี่ยวๆ ตามง่ามใบ มีริ้วประดับ (epicalyx) เป็นเส้นสีเขียว 8-10 เส้น เรียงเป็นวงรอบโคนกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลือง โคนกลีบสีม่วงแดง รูปไข่กลับหรือค่อนข้างกลม เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก ก้านชูอับเรณูติดกันเป็นหลอดยาว 2-3 ซม. หุ้มเกสรเพศเมียไว้ อับเรณูเล็กจำนวนมากติดรอบหลอด ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ปลายแยกเป็น 5 แฉก ยอดเกสร
2 อุปลักษณ์ คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง จะใช้คำ "เป็น" หรือ "คือ" เช่น "สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง" "อันสตรีเป็นเกาะแก่งกีดกระแสกุศล มีมัจฉริยะมืดมนคือตัวมาร" 2. 2 บุคลาธิษฐาน คือ การสมมติสิ่งต่าง ๆ ให้มีกริยาอาหารเหมือนมนุษย์ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะดังนี้คือ 2. 2. 1 สมมติสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ใช่คน แต่ทำกริยาอาการเหมือนคน เช่น "หมู่นกน้อยเริงร่าถลาร่อน ส่งเสียงอ้อนหัวเราะต่อกระซิก" "พิศสิงขรสองลูกตระหง่านมั่น ผูกสัมพันธ์ แอบแนบนิทรา" 2. 2 การนำสัตว์ในนิทานหรือนิยายไปเปรียบกับมนุษย์ โดยชี้คติบางอย่างเพื่อ เตือนใจ เช่น กระต่ายกับเต่า กบเลือกนาย หมากับเงา ความงามในภาษาที่เกิดจากศิลปะของการประพันธ์มีปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ 1. การสรรคำใช้ 2. กวีโวหารและสำนวนโวหาร 1. การสรรคำใช้ หมายถึงการเลือกเฟ้นถ้อยคำที่เหมาะสมมาใช้ในการประพันธ์เพื่อให้เกิดอรรถรส ความไพเราะงดงามในด้านเสียงและความหมาย มีวิธีการดังนี้ 1. 1 เลือกคำที่มีความหมายสมกับเนื้อหาเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง 1. 2 เลือกคำโดยเพ่งเล็งเสียงของคำมี 2 ลักษณะ คือ 1.
อุปมานิทัศน์ วิธีนี้เป็นการขยาย หรือแนะโดยนัยให้ผู้รับสารเข้าใจได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งในแนวความคิด หลักธรรมะ หรือข้อควรปฏิบัติที่ผู้เขียนประสงค์จะสื่อไปยังผู้อ่านผู้ฟัง สีหราชร้องว่าโอ้ พาลหมู ทรชาติครั้นเห็นกู เกลียดใกล้ ฤามึงใคร่รบดนู มึงมาศ เองนา กูเกลียดมึงกูให้ พ่ายแพ้ภัยตัว 11. สมญานาม สมญานาม หมายถึง การตั้งชื่อใหม่ที่เหมาะสมกับลักษณะของสิ่งที่ต้องการสื่อ การเลือกสรรคำ หรือกลุ่มคำที่เหมาะสมเพื่อนำสิ่งที่ต้องการสื่อ การตั้งสมญานามมักจะเป็นการสื่อคำที่รับรู้กันเฉพาะคนในกลุ่ม โรเบอร์โต้อูปาร์เต้ นักเตะ เมืองกระทิงดุ ลงสนามแข่งขันเมื่อเย็นวาน ไอ้แสบ เป็นชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ พระปิยมหาราช ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย เมืองกระทิงดุ ไอ้แสบ พระปิยมหาราช เป็นโวหารภาพพจน์ประเภทสมญานาม เอกสารความรู้เพิ่มเติม วรรณศิลป์ 1 วรรณศิลป์2 วรรณศิลป์3